ในชีวิตประจำวัน
ทุกคนต้องเคยพบกับปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การเงิน
การงาน หรือแม้แต่การเล่นเกม เมื่อพบปัญหาแต่ละคนจะมีวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน
ซึ่งแต่ละวิธีการอาจให้ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้
ความสามารถ และประสบการณ์ของบุคคลนั้น อย่างไรก็ตาม หากเรานำวิธีการแก้ปัญหาต่างวิธีเหล่านั้นมาวิเคราะห์ให้ดี
จะพบว่า สามารถสรุป วิธีการเหล่านั้นเป็นทฤษฎี ซึ่งมีรูปแบบที่แน่นอนได้ดังนี้
1)
การลองผิด-ลองถูก เป็นวิธีการแก้ปัญหาแบบพื้นฐานที่สุด
คือ สิ่งใดผิดก็จะละเว้นไม่กระทำ สิ่งใดถูกก็จะเก็บเป็นฐานความรู้
ไว้เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการแก้ปัญหาในโอกาสต่อไป
2)
การใช้เหตุผลประกอบการแก้ปัญหา ในบางกรณีผู้เรียนสามารถให้เหตุผลได้ว่า
ทำไมจึงคิด หรือทำเช่นนั้น ซึ่งรูปแบบของการให้ เหตุผลประกอบการแก้ปัญหาของแต่ละคน
อาจแตกต่างกัน แต่มีวิธีหนึ่งที่พบบ่อยคือ วิธีขจัด (Method of elimination)
กล่าวคือ เราจะเลือก เฉพาะข้อมูลที่อาจเป็นไปได้ไว้ แล้วค่อยพิจารณาขจัดกรณีที่เป็นไปไม่ได้ทิ้งไปเรื่อย
ๆ จนเหลือกรณีที่เป็นไปได้
3)
การใช้ตารางหาความสัมพันธ์ของข้อมูล ซึ่งบางปัญหาไม่สามารถขจัดให้เหลือกรณีเดียว
ได้ แต่อาจทำให้เหลือน้อยกรณีที่สุด แล้วพิจารณาความเป็นไปได้ของแต่ละกรณี
โดยใช้ตารางหาความ สัมพันธ์ของข้อมูล
ตัวอย่างการแก้ปัญหา เล่นเกมทายใจ
กติกา 1. ใช้ผู้เล่น 2 คน คือ ผู้กำหนด และ ผู้ทาย
2.
คนที่ 1 เป็นผู้กำหนดตัวเลข 3 ตัวที่ไม่ซ้ำกัน โดยเลือกจากกลุ่มตัวเลข
1 - 9
3.
คนที่ 2 เป็นผู้ทายตัวเลข 3 ตัว ที่ไม่ซ้ำกันให้ถูกต้องตามที่คนที่
1 กำหนดไว้
4.
หลังจากที่ผู้ทาย ทายเลขในแต่ละครั้ง ผู้กำหนดต้องบอกว่า ตัวเลขที่ทายมาทั้ง
3 ตัวนั้น มีทายถูกต้องกี่ตัว หรือ
5.
ในกรณีที่ตัวเลขที่ทายมาถูกตำแหน่งด้วย ก็ต้องบอกว่าถูกตำแหน่งกี่ตัว
ตัวอย่างเช่น
1.
ตัวเลขที่กำหนดไว้เป็น 815
2.
ผู้ทายทายว่า 123
3.
ผู้กำหนดต้องแจ้งว่า ตัวเลขที่ทายนั้นถูก 1 ตัว แต่ไม่ถูกตำแหน่ง
ตารางที่ 1 แสดงข้อมูลการเล่นทายใจ
เลขที่ทาย
|
จำนวนตัวเลขที่ทายถูก
|
จำนวนตำแหน่งที่ถูก
|
123
|
1
|
-
|
415
|
2
|
2
|
425
|
1
|
1
|
416
|
1
|
1
|
715
|
2
|
2
|
815
|
3
|
3
|
|